fbpx

7 ขั้นตอนง่ายๆ ในการขายสินค้าบน TikTok

TikTok รู้สึกเหมือนเป็นโลกแห่งอินเตอร์เน็ตอีกโลกหนึ่ง เพราะเราสามารถหาทุกอย่างได้จากที่นั่น ตั้งแต่กลุ่มคนดังบนอินเทอร์เน็ตไปจนถึงคนแปลกหน้าที่เราไม่รู้จัก อีกทั้งยังมีคอนเทนต์แตกต่างหลากหลาย และมีโอกาสมากมายที่จะขายสินค้าได้

การเติบโตและการแพร่หลายทางวัฒนธรรมของ TikTok ทำให้แอพนี้เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างแบรนด์และขายสินค้า สามารถช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มผู้ชมใหม่ๆ และเพิ่มฐานลูกค้าได้ แต่จะทำได้อย่างไรนั้น วันนี้หมาน้อยได้รวบรวมมาให้เจ้านายได้รู้กันแล้วที่นี่

 

เราสามารถขายสินค้าบน TikTok ได้หรือไม่?

เมื่อก่อนแบรนด์ต่างๆ จะล้นฟีดและหวังว่า TikTokers จะเปลี่ยนแอปแบบออร์แกนิกเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ของตน จากนั้นในปีที่แล้ว TikTok ได้ปรับปรุงกระบวนการโดยร่วมมือกับ Shopify เพื่อเปิดตัว TikTok Shopping

TikTok Shopping ให้ผู้ใช้สามารถเรียกดู เลือก และซื้อสินค้าได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องออกจากแอพ เป็นการผสานรวมอีคอมเมิร์ซที่ราบรื่นซึ่งสร้างกระแสหลักบนแพลตฟอร์มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ชุมชนของเราได้เปลี่ยนการช้อปปิ้งเป็นประสบการณ์ที่มีรากฐานมาจากการค้นพบ การเชื่อมต่อ และความบันเทิง สร้างโอกาสที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับแบรนด์ต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค” Blake Chandlee จาก TikTok กล่าวเมื่อเปิดตัว

“TikTok ถูกวางไว้ที่ศูนย์กลางของเนื้อหาและการค้าอย่างมีเอกลักษณ์ และโซลูชั่นใหม่เหล่านี้ทำให้ธุรกิจทุกขนาดง่ายยิ่งขึ้นไปอีกในการสร้างเนื้อหาที่น่าดึงดูดซึ่งขับเคลื่อนผู้บริโภคโดยตรงไปยังจุดซื้อดิจิทัล”

หากคุณตั้งค่าเพจของคุณอย่างถูกต้อง (และตรงตามข้อกำหนดของ TikTok) คุณจะสามารถเพิ่มแท็บร้านค้าในหน้า TikTok ของคุณได้อย่างราบรื่น การผสานรวมนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถดูรายการจากร้านค้าออนไลน์ของคุณได้โดยไม่ต้องออกจากแอป

นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว TikTok Shopping ไม่ได้มีไว้สำหรับผู้ใช้ Shopify อีกต่อไป แต่ยังสามารถทำงานร่วมกับ Prestashop, Base, Square, BigCommerce, OpenCart, Ecwid, Shopline และ Wix eCommerce ได้อีกด้วย

TikTok Shopping เปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และแคนาดา แต่ขณะนี้มีให้บริการแล้วทั่วโลก

 

ทำไมถึงขายบน TikTok?

 

คนใช้เยอะ

ในปัจจุบันนับว่า TikTok เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมไปแล้วก็ว่าได้ เพราะเทรนด์ส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น ดนตรี อาหาร ภาพยนตร์ หรืออะไรก็ตาม มักจะเริ่มต้นใน TikTok ก่อนกระจายไปที่อื่น

มีผู้ใช้งาน TikTok ประมาณ 1 พันล้านคนต่อเดือน คิดเป็น 20% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก และนับเป็นหนึ่งในแปดของประชากรของโลก และยังใช้ระยะเวลาเฉลี่ยต่อวันยาวนานกว่าหนึ่งชั่วโมง

หากคุณมีสินค้าที่น่าสนใจ TikTok เป็นสถานที่นำไปเปิดตัวเป็นอยางยิ่ง

 

ไม่จำเป็นต้องมีงบประมาณเยอะ

ผู้ใช้ TikTok มักจะไม่ชอบโฆษณาที่โจ่งแจ้งเกินไป แต่จะชอบเนื้อหาแบบออร์แกนิกที่น่าสนใจมากกว่า ดังนั้นเจ้านายจึงไม่จำเป็นต้องมีงบประมาณจำนวนมากหรือทีมงานเพื่อสร้างกระแสบน เพราะTikTok ใช้หลักการประชาธิปไตยในการเข้าถึงเนื้อหา ช่วยโปรโมทคลิปที่มียอดคนดูเยอะไปยังเพจ For You หรือ #fyp ให้คนเห็นมากขึ้นไปอีก เพราะถือว่าเป็นคลิปที่มีคุณภาพ

นั่นหมายความว่าโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ TikTok นั้นไร้ขีดจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเจ้านายมีเป้าหมายชัดเจน

 

วิธีขายสินค้าบน TikTok

 

  1. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฐานผู้ใช้ที่ใหญ่ที่สุดของ TikTok คือ กลุ่มวัยรุ่น ตามด้วยกลุ่มอายุ 20-29 ปี และกลุ่มอายุ 30-39 ปี แต่ไม่ได้หมายความว่าเจ้านายจะไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้สูงอายุได้ใน TikTok เพียงแต่ต้องทำความคุ้นเคยกับแอปและคอมมูนิตี้ต่างๆ ในแอป

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการขายโคมไฟอ่านหนังสือ ก็ควรเจาะลึกลงไปในแฮชแท็ก #BookTok และเรียนรู้เกี่ยวกับประเภทของวิดีโอที่ผู้ชอบอ่านหนังสือโพสต์ เพราะถ้าหากเราเรียนรู้วิธีการสื่อสารของพวกเขาได้ เราก็จะสามารถเข้าร่วมกลุ่มได้อย่างเป็นธรรมชาติและกลมกลืนมากขึ้น

 

  1. ตั้งค่าบัญชีเป็นแบบธุรกิจ

ไม่ว่าเจ้านายจะมีบัญชี TikTok อยู่แล้วหรือเริ่มต้นจากศูนย์ เจ้านายจะต้องตั้งค่าบัญชีให้เป็น TikTok for Business (ถ้ามีบัญชีอยู่แล้วสามารถทำการสลับได้ง่ายเพียงแค่เข้าไปที่เมนู จัดการบัญชี และแตะ สลับไปยังบัญชีธุรกิจ)

ซึ่งจะต้องเตรียมบัญชีให้พร้อมด้วยข้อมูลและภาพที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ทั้งหมด จากนั้นก็ทำการเชื่อมแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของเจ้านายกับ TikTok เข้าด้วยกัน (คำแนะนำควรมีอยู่ในไซต์ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เจ้านายใช้)

เมื่อทำทุกอย่างที่กล่าวมาด้านบนเสร็จหมดแล้ว เจ้านายจะได้แท็ก TikTok Shopping บนหน้าเพจ และ TikTok ก็จะแสดงผลิตภัณฑ์ของเจ้านายบนวิดีโอ ซึ่งมี 2 ทางให้เลือก คือ ขายจบทุกขั้นตอนภายในแอพ หรือลิงก์ไปทำธุรกรรมขั้นสุดท้ายบนเว็บไซต์

 

  1. เริ่มสร้างคอนเทนต์

แน่นอนว่าการสร้างเพจและปล่อยไว้เฉยๆ คงไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาได้ เพราะถ้าเจ้านายต้องการให้แบรนด์เติบโตบน TikTok เจ้านายจะต้องสร้างคอนเทนต์ให้เยอะที่สุด

ข้อดีในการสร้างคอนเทนต์บน TikTok คือ ปริมาณเหนือกว่าคุณภาพ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ คือ จะต้องไม่ “ขายของ” อย่างโจ่งแจ้ง เพราะผู้ใช้ TikTok ไม่ชอบความฮาร์ดเซลล์ ดังนั้นถ้าเจ้านายอยากดึงดูดผู้ใช้ TikTok จะต้องใจเย็น และสร้างคอนเทนต์ด้วยความจริงใจ เพราะถ้าดูตั้งใจมาขายของมากเกินไปสุดท้ายผู้ชมก็จะดูออก

วิธีสู่การสร้างคอนเทนต์ให้โดนใจคือการทำวิจัยกลุ่มเป้าหมาย มีส่วนร่วมกับเทรนด์และชาเลนจ์ของกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเต้นหรือมีมไวรัล และในขณะที่กำลังทำการวิจัยนั้นก็อาจจะลองแทรกการโปรโมทผลิตภัณฑ์เข้าไปบ้าง

เมื่อคุณได้สร้างเสียงและผู้ติดตามแล้ว คุณอาจลองเปิดตัว TikTok Challenge ของคุณเองด้วยแฮชแท็กที่ไม่เหมือนใคร การเคลื่อนไหวเช่นนี้สามารถให้ผลตอบแทนในรูปแบบที่ไม่สามารถจินตนาการได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์และโชคในปริมาณที่เหมาะสม

 

  1. ติดแท็กผลิตภัณฑ์ในวิดีโอ

TikTok Shopping มีคุณสมบัติในการแท็กสินค้าด้วยการแตะง่ายๆ ขั้นตอนสำคัญที่สุดของวิธีนี้ก็คือการติดแท็กสินค้าในวิดีโอให้ถูกต้อง แค่นั้นเอง

ฟังก์ชั่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้แบรนด์ของเจ้าเป็นที่รู้จักมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังหมายความว่าเจ้านายจะสามารถโฆษณาได้โดยไม่ต้องโฆษณา ใน วิดีโอทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการแอบโฆษณาสินค้าแบบเนียนๆ  ต่อหน้าผู้ใช้ที่ไม่ชอบตกเป็นเหยื่อโฆษณา

 

  1. ใช้ประโยชน์จากอินฟลูเอนเซอร์

ถ้าการเจาะเทรนด์ TikTok ด้วยตัวเองเป็นเรื่องยาก เรายังมีทางเลือกในการทำการตลาดแบบ Influencer อยู่  ใน TikTok เต็มไปด้วยอินฟลูเอนเซอร์ในทุกย่างก้าว และสิ่งหนึ่งที่พวกเขามีเหมือนกัน คือ ความสามารถในการทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราดูน่าเชื่อถือ

แต่เจ้านายต้องทำการวิจัยก่อนลงมือทำเช่นเดียวกับการตลาดวิธีอื่น สิ่งสำคัญ คือ เจ้านายจะต้องเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่กำหนดไว้ในขั้นตอนที่ 1 และยังต้องเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีอิทธิพลจริง และเหมาะสมกับแบรนด์จริงๆ โดยการดูผู้ติดตามและโพสต์ที่ผ่านมาของพวกเขา

ข้อแนะนำอีกอย่างหนึ่งคือ แม้การทำงานกับอินฟลูเอนเซอร์อาจเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มการเข้าถึง แต่ก็ควรจะวางกลยุทธ์ไว้ให้ดี เพราะค่าใช้จ่ายอาจจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างเช่น Kylie Cosmetics มักจะทำงานร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมทผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางบน TikTok

 

  1. สนับสนุน UGC (user-generated content)

ถ้าเมื่อไหร่ที่ UGC (user-generated content) ติดลมบนขึ้นมา นั่นคือเอฟเฟกต์แบบก้อนหิมะขั้นสุดยอด เพราะมันจะส่งผลทวีคูณไปเรื่อยๆ  ซึ่งสามารถทำให้แบรนด์ของคุณเข้าถึงทั่วโลกได้อย่างคาดไม่ถึง

ซึ่ง UGC อาจอยู่ในรูปแบบของการชาเลนจ์ มีม หรืออาจเป็นเพียงวิดีโอที่อนู่ดีๆ ก็โกไวรัลขึ้นมา

ตัวอย่างที่โด่งดังที่สุดคือ วิดีโอ TikTok ที่ได้รับความนิยมอย่างมากของ Nathan Apodaca ที่เล่นสเก็ตบอร์ดขณะจิบน้ำแครนเบอร์รี่ Ocean Spray โดยใช้เพลง “Dreams” ของ Fleetwood Mac วิดีโอนี้ดึงดูดความสนใจจากคนทั่วโลกและมีคนดังหลายคนทำตาม รวมถึงสมาชิกของวง Fleetwood Mac ด้วย

ที่น่าสนใจคือ Ocean Spray (สหกรณ์การเกษตรอเมริกันของผู้ปลูกแครนเบอร์รี่และเกรปฟรุ๊ต) ใช้ประโยชน์เทรนด์นี้ทำการตลาดโดยการส่งเสริม #DreamsChallenge ซึ่งวิดีโอต้นฉบับตอนนี้มียอดวิวกว่า 13.2 ล้านวิวแล้ว ลองนึกภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาแท็กผลิตภัณฑ์ของตนในวิดีโอด้วย

 

  1. โปรโมทโพสต์

ย้ำอีกอีกครั้งว่า ผู้ใช้ TikTok มักจะไม่ตอบสนองต่อการโฆษณาแบบเดิมๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้านายจะไม่สามารถโปรโมทโพสต์ออร์แกนิกของตัวเองได้ ที่จริงการส่งวิดีโอไปขึ้นหน้าฟีดผู้คนจำนวนมากด้วย  TikTok Promote ออกจะตรงไปตรงมาดีด้วยซ้ำ

ต่อไปนี้คือขั้นตอนในการโปรโมทวิดีโอใน Tiktok

  1. แตะเมนู “โปรไฟล์” ที่ด้านล่างขวาเพื่อเข้าหน้าโปรไฟล์
  2. แตะไอคอน 3 บรรทัดที่ด้านบนขวา
  3. แตะเมนู เครื่องมือผู้สร้าง แล้วเลือกเมนู โปรโมท
  4. เลือกวิดีโอที่ต้องการโปรโมท (ต้องเปิดเป็นสาธารณะ และต้องไม่มีเพลงที่มีลิขสิทธิ์)
  5. เลือกเป้าหมายหนึ่งในการโปรโมท
  • ยอดเข้าชมวิดีโอเพิ่มเติม
  • ยอดเข้าชมเว็บไซต์เพิ่มเติม
  • ผู้ติดตามเพิ่มเติม
  1. หากเลือก ยอดเข้าชมเว็บไซต์เพิ่มเติม จะต้องใส่ URL และเลือกปุ่มคำกระตุ้นการตัดสินใจ (เช่น เรียนรู้เพิ่มเติม เลือกซื้อตอนนี้ หรือสมัครสมาชิก) แล้วกดบันทึก
  1. เลือกผู้ชมที่คุณต้องการเข้าถึง มี 2 ตัวเลือก
  • ผู้ชมเริ่มต้น (TikTok เลือกให้)
  • กำหนดเอง ต้องเลือกเพศ ช่วงอายุ และความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย
  1. กำหนดงบประมาณและระยะเวลา
  2. เพิ่มข้อมูลการชำระเงินและกดตกลง
  3. เริ่มโปรโมทและรอผล

อิทธิพลของ Tiktok เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรมองข้าม ถ้าเจ้านายอยากเพิ่มฐานลูกค้าหรือต้องการเปิดตลาดใหม่ๆ เข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลาย ก็ไปเริ่มกันเลยครับ

Comments